-เทพธิดา
เทพธิดา (บทความลง โหราเวสม์ )
โดย อ. คมเดชบ้านหมอดู
มือถิอ 096-6364945
บ่ายวันนี้ผมกำลังนั่งละเลียดกับกาแฟคาปูชิโน่ที่มีรสชาติอันนุ่มลึก ปลดปล่อยอารมณ์ไปตามจิตนาการอย่างสุนทรี ข้างขวามือเป็นวิทยุกำลังเล่นเพลงไทยสากลที่ขับร้องโดยนักร้องสาวเจนเฟอร์ คิม จินตนาการของผมกำลังล่องลอยไปจนมีความรู้สึกกำลังจะเคลิ้มๆได้ที่ สมาธิของผมกำลังผ่านเข้าไปปฐมญาณ ประตูกระจกในห้องทำงานของผมก็ถูกผลักเปิดออก ภาพของเทพธิดาหรือไม่แน่ว่าจะเป็นนางฟ้าก็ผ่านเข้ามาในห้องทำงานของผม และอยู่ในญาณของผม จิตของผมกำลังได้นิมิตเป็นครั้งแรก และก็เป็นครั้งแรกอีกเหมือนกัน ที่ผมสามารถถอดจิตผ่านเข้าไปในสวรรค์ชั้นพรหมที่ในตำรับตำราได้บันทึกว่าเป็นที่อยู่ของนางฟ้า และเทพธิดาที่ได้ปฏิบัติได้ธรรมในระดับที่สูงกว่าความเป็นมนุษย์ จิตของผมกำลังมีอารมณ์ปิติสุขที่เห็นอยู่ เทพธิดานางนั้นก็ได้เอ่ยกับผมว่า
“ขอโทษค่ะ...อาจารย์คะ ไม่ทราบว่าจะพอมีเวลาตรวจดวงชะตาให้หนูรึเปล่าคะ หนูไม่ได้นัดไว้แต่ก็เสี่ยงที่จะมาพบอาจารย์” เสียงของเธอได้ปลุกให้สติสตังค์ของผมที่กำลังอยู่ในญาณกระเจิดกระเจิงออกมาสู่โลกมนุษย์ในทันทีทันใด
“เอ่อ...ว่างครับ เชิญนั่งก่อนนะครับ”
เธอได้เดินมานั่งที่เก้าอี้รับแขกที่วางอยู่หน้าโต๊ะที่ทำงานของผม ผมเพิ่งมีสติครบถ้วนสมบูรณ์ในช่วงนี้เอง หลังจากแกล้งหันหน้ากำจัดขี้ตาออกจากตาของผมเรียบร้อยแล้ว เธอแต่งตัวด้วยกางเกงขายาวผ้ายืดและเสื้อยืดรัดทรงทำให้เห็นทรวดทรงที่ค่อนข้างสมบูรณ์ เธอเป็นผู้หญิงที่สวยแบบโฉบเฉี่ยว การแต่งกายของเธอได้แสดงให้เห็นถึงความใจกล้าของเธอ เพราะเสื้อที่รัดรูปของเธอทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า ที่ควรเว้ามันก็เว้าจนน่าใจหาย ส่วนที่มันควรอวบมันก็อวบจนน่าตกใจ และทำให้ผมต้องลังเลว่าควรเดินไปหยิบยาลดความดันกินสักเม็ดหรือน่าจะเป็นสองเม็ดดี เพื่อช่วยให้หัวใจไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไป ยิ่งเธอมานั่งใกล้ๆด้วยแล้ว กลิ่นหอมของโคโลญและได้เห็นใบหน้าที่หวานเฉี่ยวของเธอ จนอดคิดไม่ได้ว่าครีมบำรุงผิวยี่ห้อดังๆทำไมไม่เชิญเธอเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าบำรุงผิว พอเธอแย้มริมฝีปากยิ้มให้ผม ทำให้ชีพจรของผมเริ่มเต้นแรงขึ้น ก่อนที่สติของผมจะผ่านเข้าทุติยญาณ ผมจึงต้องถามเธอว่า
“หนูช่วยบอกวันเดือนปีเกิดกับเวลาตกฟากมาให้อาจารย์ทราบหน่อย จะได้ผูกดวงชะตาทายทักวาสนากันได้”
“หนูเกิดวันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม 2532 เวลาเกิด 22.00 น.”
ผมหันไปผูกดวงวางลัคนา ซึ่งก็ได้รูปดวงดังนี้
หญิง วันอาทิตย์ ที่ 29 ตุลาคม 2532
เวลา 22.00 น.
จรวันที่ 22 สิงหาคม 2556 อายุ 24 ปี
ถ้าจะมองในรูปแบบทักษาจรแบบดาววันเกิดเสวยอายุ (ในโปรแกรมโฮ๋ราสาด ใช้ทักษาแบบดาวเสวยอายุ)ทักษาจรตกภูมิดาว ๗ ดาว๗เป็นบริวารจรเข้าเรือนศรีตั้งแต่วันที่ครบอายุเต็ม 23 ปีย่างเข้า 24 ปีในปีที่ผ่านมา ดาวบริวารจรทับดาว ๓ มนตรี เป็นคู่แตกหัก ทับดาว ๔ เป็นกาลี ในช่วงปลาย พ.ย. 55 ดาว ๖ ศรีจรเข้าภพอริ จรร่วมกับดาว ๔ กาลี ทับดาว ๖ เดิม เมื่อประมวลจากข้อมูลที่ทราบในพื้นดวงเรียบร้อยแล้ว ความฝันที่ผมเห็นเทพธิดาก็สลายเป็นอากาศธาตุไป พร้อมกับคำพยากรณ์ต่อไปนี้
“ในปลายปีที่ผ่านมาประมาณเดือน พ.ย. 55 – ธ.ค. 55 นี้ หนูมีปัญหาในเรื่องการคลอดหรือมีบุตรใช่รึเปล่า”
“ใช่ค่ะอาจารย์ หนูตอนนั้นตกเลือดมากจึงรีบผ่าทำคลอดลูกให้หนู ลูกหนูต้องอยู่ในตู้อบเป็นเดือนทีเดียวค่ะ อาจารย์เห็นในดวงเลยรึคะ” สีหน้าของเธอแสดงออกถึงความแปลกใจทำไมผมทราบเรื่องราวของเธอได้ เธอก้มหน้ามองรูปดวงที่ผมเขียนอยู่บนสมุดดวงความรู้สึกแปลกใจ(ท่านที่สงสัยว่าอ่านทักษาอย่างไร ก็ลองหาอ่านในหนังสือเทคนิคพยากรณ์ ฉบับทางด่วน ถามหาได้ที่เขษมบรรณกิจครับ )
“ตอนนี้หนูมีเรื่องกับแฟนถึงกับถูกทำร้าย แล้วก็หนีหายมาเจอแฟนใหม่ใช่ไหม” ผมพยากรณ์ต่อไปอีกในเมื่อ หลักวิชาถูกต้องความมั่นใจในการพยากรณ์จึงตามมา
“จริงค่ะ หลังจากหนูคลอดลูกแล้ว สามีเขาก็ไม่รับผิดชอบแถมยังมารีดไถเงินจากหนูอีก ร่างกายหนูก็ไม่ค่อยแข็งแรง ต้องรีบออกไปทำงานหาเงิน ได้มาแทนที่จะมาใช้จ่ายเลี้ยงลูก สามีหนูกับรีดไถหนู จนทนไม่ไหว จึงพาลูกที่เพิ่งคลอดไปฝากแม่ที่ต่างจังหวัด แล้วย้ายหนีสามีหนู” เธอเล่าเรื่องเก่าให้ฟัง
“นั่นสิ ไม่หนีเขาก็คงเอาซี่โครงหนูข้างฝาแน่ๆ” ผมพูดด้วยความเห็นใจเธอ
“ค่ะ พอหนูหาเงินได้ไม่มากพอที่เข้าใจเอา ก็ตบตีหนู หนูเห็นท่าไม่ดีก็หนี ตอนนี้ก็กลัวเขาจับได้หนูคงถูกซ้อมอานแน่ๆเลย อาจารย์คะหนูจะไปพ้นจากเขาได้สำเร็จไม่คะ” สีหน้าของเธอดูวิตกกังวล รอยก้นหอยที่หน้าผากแสดงให้เห็นถึงความหนักใจกับเรื่องนี้อย่างมาก
ทำไมผมจึงพยากรณ์ออกไปแบบนั้น ท่านผู้ที่อ่านโหรเวสม์ส่วนใหญ่น่าที่จะพอพยากรณ์ได้ แต่ที่ผมเขียนบทความนี้จุดประสงค์ก็เพื่อแชร์ความรู้กับผู้ที่มีความรู้ในทางโหราศาสตร์ และเป็นการถ่ายทอดประสบการณ์กับผู้ที่กำลังศึกษาโหราศาสตร์ และเป็นการเล่าประสบการณ์บนโต๊ะพยากรณ์เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจแก่ผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ให้ไม่ประมาท การพยากรณ์ที่ผมศึกษามานั้นมีรูปแบบหลายวิธีการ ทั้งการพยากรณ์แบบไม่ใช้ทักษา และแบบใช้ทักษา ซึ่งก็เป็นรูปแบบการพยากรณ์ที่ได้ใช้จนมีความมั่นใจแล้ว จึงนำมาเผยแพร่ให้กับท่านผู้อ่าน ในฉบับนี้ผมได้นำทักษาที่อยู่ในตำราเทคนิคพยากรณ์ของอาจารย์ผมมาใช้ ซึ่งการอ่านพยากรณ์ก็สามารถแยกแยะได้ดังนี้
- ทักษาจรเข้าภูมิ ๗ ปีนี้ ดาว ที่ครองอายุก็จึงเป็นดาว๗ อาจารย์ได้เคยอธิบายไว้ว่า ดาวที่เป็นภูมิอายุทางทักษานั้นจะทำหน้าที่เป็นคล้ายกับดาวตนุลัคน์หรือลัคนาจรในปีนั้น จึงต้องเพ่งพิจารณาทั้งในพื้นดวงแล้วดาวจร และท่านยังได้เน้นว่า การใช้ทักษานั้นนอกจากศรี กาลี แล้ว ภูมิบริวาร อายุ และเดช ก็เป็นเรื่องที่จะมองข้ามไปไม่ได้ด้วย ในดวงนี้อายุตกภูมิบาปเคราะห์ ย่อมมีแต่เรื่องร้อนรน ดาว ๗ เป็นดาวที่โคจรช้า จึงเพ่งมองความสำคัญที่ภูมิทักษาบริวารจร ดาว ๗ จรทับดาว ๑ เป็นคู่จาก ดาว ๑ ภูมิมูละและภพสหัชชะเดิม จึงหมายถึงว่าเธอได้ขาดความสัมพันธ์กับคนรักและย้ายที่อยู่อาศัย( ๗ = บริวาร+ มรณะ ทับ ๑ = มูละ + สหัชชะ)
- ดาว ๗ จรทับดาว ๒ ภูมิ อุตสาหะ กดุมภะ ดาว ๗ + ๒ คู่พลัดพราก ดาว ๗ บริวารเป็นเหตุแห่งเรื่องที่เกิด ดวงเดิมเป็นผลที่ต้องแสดงกับชีวิต บริวาร = ลูก สามี เป็นเหตุให้เธอต้องสูญเสียงานและสูญเสียรายได้ จรในภพปุตตะจึงเน้นว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับบุตร
- ดาว ๗ จร ๔ กาลี ,ตนุ พันธุ ดาว ๗ + ๔ เป็นคู่สมพล และเป็นคู่จากด้วย คู่สมพลคืออำนาจและกำลัง เมื่อ ดาว ๗ บริวารจรทับดาว ๔ ที่เป็นตนุลัคน์ ดาว ๗ เป็นมรณะจร หมายถึงคู่ครองใช้อำนาจทำให้ตัวเธอไม่สามารถอยู่ในบ้านเดิมได้ต้องย้ายหนี ในภพปุตตะ ย่อมหมายถึงบุตรที่เพิ่งเกิดก็ย่อมถูกผลพวงด้วย ดาว ๗ จร เข้าเรือน ๖ คู่ศัตรู และเป็นดาวคู่ทุกข์ทรมานใจ บุตรและสามีจึงเป็นเรื่องที่ทำให้ทุกข์ทรมานใจด้วย และจึงเป็นที่ว่าทำไมเธอต้องคลอดก่อนกำหนด เพราะดาว ๗ จรมีเหตุเป็นมรณะ วันที่เธอคลอดดาว ๖ ปุตตะและเป็นศรีจรร่วมอยู่ในภพปุตตะ และถัดจากนั้นดาว ๖ ก็จรเข้าภพมรณะ ทำให้บุตรของเธอต้องอยู่ในตู้อบนานนับเดือน
- ในเดือน ม.ค. 56 ต้นปีนี้เอง ดาว ๘ เดช จรเข้าภพปุตตะ ดาว ๘ เป็นเดชและเป็นศุภะจร แต่เป็นมรณะเดิม จรทับดาว ๑ มูละ,สหัชชะ ดาว ๘ + ๑ เป็นคู่มือคู่สว่างและได้ตำแหน่งราชาโชค แต่ก็มีผลในเรื่องการย้ายเช่นกัน นั่นย่อมหมายถึงว่าในช่วงนี้เธอแอบลักลอบคบหากับคนที่มีฐานะเป็นม่ายสูงวัย (ดาว ๘ เป็นศุภะ ,เดช ,มรณะเดิมและเป็นราชาโชค = 1 แก่, ม่าย,รวย)
- ดาว ๘ จรทับดาว ๒ อุตสาหะ,กดุมภะ ดาว ๘ + ๒ เป็นคู่สมพล และคู่ชู้ เธอได้รับการช่วยเหลือจากคนสูงวัยนี้และมีภาระต่อกันด้วยเรื่องชู้สาว ในภพปุตตะเรือนศรีเป็นคนรักใหม่
- ดาว ๘ จรทับดาว ๓ เป็นมนตรี,อริ,ลาภะ ดาว ๘ + ๓ เป็นคู่ธาตุและเป็นคู่ชู้ด้วย ความช่วยเหลือที่ได้เป็นเงินทองที่เป็นเรื่องไม่ยั่งยืนถาวรนักเพราะเป็นความสัมพันธ์ในเรื่องชู้สาว (มนตรี=ช่วยเหลือ , ลาภะ= รายได้, อริ=ไม่ยั่งยืน)
- ดาว ๘ จรทับ ๔ กาลี ,ตนุ, พันธุ ดาว ๘ + ๔ เป็นคู่หลอกลวง คู่ศัตรู นั่นแสดงว่าชายคนนี้ทำให้เธอเกิดปัญหาในครอบครัว ต้องโยกย้ายที่อยู่ และความสัมพันธ์ระหว่างกันก็ไม่ใช่เรื่องจริงใจ แต่คบกันในฐานที่ไม่จริงใจต่อกันนัก
ในวันที่ 29 ต.ค. 56 นี้อายุของเธอก็จะย่าง 25 ปี ภูมิทักษาก็จะเปลี่ยนเป็น ภูมิดาว ๕ เป็นบริวารจร ดาว ๑ ซึ่งเป็นนิจเดิมก็จะเป็นศรีจร แสดงว่าในด้านการส่งผลดีในปีนี้ คือดาวที่ครองภูมิศรี คือดาว ๑ บริวารเดืม เป็นนิจ ย่อมไม่ส่งผลดีนัก จึงคาดได้ว่าเรื่องดีๆคงไม่เกิดขึ้นได้ง่ายๆนัก ขณะเดียวกันดาว ๗ ซึ่งเป็นมูละเดิมเป็นกาลี เป็นเจ้าเรือนมรณะเดิมและสถิตย์ในภพปัตนิ เป็นกาลี ในเรื่องการให้โทษน่าจะเป็นเรื่องรุนแรงกว่า เพราะดาว ๗ จรเป็นอุจในช่วงนี้ด้วย เราลองมาพิจารณาว่าจะเกิดอะไรขึ้น
- ดาว ๗ เป็นกาลีจร เป็นมูละเดิมและอยู่ในภพปัตนิ ภพเดิมเป็นมรณะ แสดงว่ามูลเหตุเดิมในทักษาจรแสดงเหตุว่าเธอจะร้อนที่อยู่ ต้องโยกย้ายเพราะความเดือดร้อนที่สามีเป็นผู้ก่อขึ้นกับตัวเธอ นี้ว่าตามบุพกรรมเดิม
- ดาว ๗ กาลี,มรณะ + ปัตนิ จรทับดาว ๑ ซึ่งเป็นศรี, สามีของเธอจะทำให้เสียทรัพย์ ที่เธอเองก็ไม่ค่อยจะมี ดาว ๑ เป็นนิจ และเป็นสหัชชะเดิม เธอต้องวิ่งหยิบยืมหมุนเงินมาให้สามี
- ดาว ๗ จรทับดาว ๒ มูละจร,กดุมภะเดิม สามีจะทำให้เธอต้องโยกย้ายที่อยู่อาศัยเพราะเรื่องเงินๆทองๆ (ดาว ๗ + ๒ = คู่พลัดพราก )
- ดาว ๗ จรทับดาว ๓ อุตสาหะจร ,อริ,ลาภะ เดิม สามีทำให้เธอต้องออกจากงานหรือจะทายว่าตกงานอย่างกะทันหันก็ได้ และทำให้เธอไม่มีรายได้ (อริ+ ลาภะ = ไม่มีรายได้)
- ดาว ๗ จรทับดาว ๔ มนตรี ,ตนุ พันธุ สามีทำให้เธอต้องสูญเสียที่พึ่ง และต้องย้ายหนีด้วยการแสดงอำนาจ (ดาว ๗ + ๔ = คู่จาก , คู่สมพล = อำนาจ)
- ดาว ๘ อายุจร, เป็นศุภะ + มรณะ ทับดาว ๑ ศรี เป็นสหัชชะ เป็นดาว ๘ + ๑ = คู่มืดคู่สว่าง) ชีวิตของเธอในช่วงนี้ต้องวุ่นวายขาดที่พึ่ง และต้องคอยหลบๆซ่อนๆ
- ดาว ๘ อายุ จรทับดาว ๒ มูละจร ,เป็น กดุมภะ เธอต้องเป็นเดือดร้อนเป็นหนี้สินเพราะเรื่องที่อยู่อาศัยหาช่วยเหลือยาก
- ดาว ๘ จรทับดาว ๓ อุตสาหะจร เป้นอริ ,ลาภะ เป็นประ ดาว ๘ + ๓ เป็นคู่ชู้และคู่ธาตุ เธอต้องอาศัยเรื่องชู้สาวเป็นอาชีพเพื่อหารายได้ที่ทำเป็นครั้งคราวหรือเป็นงานระยะสั้นๆ
- ดาว ๘ จรทับ ๔ มนตรีจรเป็น ตนุ พันธุ ชีวิตของเธอในช่วงนี้ต้องประสบกับการโกหกหลอกลวงเพราะต้องหาคนพึ่งพาในเรื่องที่อยู่อาศัยและความมั่นคงของเธอเอง ต้องพบกับการหลอกลวงซ้ำๆซากๆอยู่เสมอ
และทั้งหมดคือคำพยากรณ์ที่ได้จากทักษา ที่จริงผมจะนำคำพยากรณ์มาสรุปเป็นคำพูดก็ได้ แต่มาคิดว่าจะการนำมาสรุปให้ท่านผู้อ่านฟัง อาจจะเป็นการดูถูกภูมิปัญญาของผู้อ่านก็ได้ ท่านผู้อ่านลองเขียนคำพยากรณ์ด้วยคำพยากรณ์ของคุณเองลงใต้บทความนี้ดู บางทีอาจจะได้คำพยากรณ์ที่น่าฟังกว่าผมก็ได้นะครับ ผมจะจบด้วยคำพยากรณ์อย่างนี้ครับแต่จะข้ามสิ่งที่ผมเขียนมานะครับ
“ชีวิตของหนูมันเริ่มมีแต่เรื่องวุ่นวายมาตั้งแต่เกิดแล้ว พอเป็นวัยรุ่นหน่อยหนูก็ใช้ชีวิตอย่างคึกคะนองมีคู่ตั้งแต่อายุยังน้อย เรื่องการศึกษาก็ไม่ได้รับการส่งเสริม เพราะครอบครัวไม่สนใจ พ่อแม่เองก็มีชีมีฐานะลุ่มๆดอนๆ ยากที่จะได้พึ่งพา ชีวิตของหนูจึงต้องเดินเข้ามาในโลกงานกลางคืน แต่ก็เป็นอาชีพที่มันวุ่นวายไปกับเรื่องทางโลกีย์ ในที่สุดก็ต้องถูกคนเราคิดจะหวังพึ่งหลอกลวง ชีวิตในโลกกลางคืนนั้นจะหาคนจริงใจ และหวังที่จะเป็นที่พึ่งของหนูนั้นยากเต็มที ลองหันมาหาอาชีพที่สะอาดและกลางวันและหนีโลกกลางคืนทำน่าจะทำให้ชีวิตของหนูดีขึ้น ไม่ขึ้นๆลงๆแบบที่ผ่านมา ถึงงานกลางวันมันจะทุกข์กายแต่ก็จะนำไปสู่ทางที่สุขใจ และโอกาสที่จะพบคนพึ่งพาได้อย่างจริงใจจะมีมากกว่า แต่ก็อย่าคิดงอมืองอเท้าที่จะพึงคู่ครอง ควรเป็นเพื่อนคู่คิด เพื่อนร่วมงาน และเพื่อนใจ ช่วยกันค้ำช่วยกันต่อไป ย่อมที่ก่อร่างสร้างตัวได้อย่างยั่งยืน ดีกว่าโลกฉาบฉวยที่หนูทำอยู่ สิ่งที่อาจารย์เตือนก็ลองคิดดูว่าจะหลีกเลี่ยงอย่างไร ถ้าทุกข์ใจหาทางไม่ออกก็ถามไถ่กันได้ อาจารย์เต็มใจที่จะเป็นที่ปรึกษาให้”
ในชีวิตจริงของเด็กสาวคนนี้ เธอต้องหาเงินส่งเสียมารดาและบิดาที่ชราและไม่ค่อยจะแข็งแรงมีปัญหาในเรื่องสุขภาพด้วยโรคประจำตัวเบียดเบียน เธอจะยากลำบากอย่างไรก็ตาม ก็พยายามหาเงินทองส่งเสียคนที่อยู่ข้างหลังเธอ ตั้งแต่อายุยังน้อย แม้ว่าสิ่งที่เธอทำมาหาเลี้ยงชีพจะเรียกกันว่า “เทพธิดาราตรี” แต่ชีวิตของเธอก็เป็นเทพธิดาตัวจริงของพ่อแม่และของลูกที่แรกเกิดของเธอ แม้จะเหนื่อยยากจะลำบากเพียงใด เธอก็ยังพยายามหาเงินส่งเสีย คนที่อยู่ข้างหลัง แต่คนทั่วไปในสังคมรอบๆตัวเราที่มีงานดีๆ การศึกษาดีๆ จะมีสักกี่รายที่จะยอมเสียสละตัวเองเพื่อพ่อแม่และลูกที่รอความหวังได้เหมือนเธอ เธอทำได้ดีที่สุดแค่นี้เพราะไม่มีความรู้ ไม่มีการศึกษา และชีวิตที่มาจากคนยากจน คุณผู้อ่านละครับเคยทำเพื่อพ่อแม่และลูกได้เท่าเธอรึเปล่า
อาจารย์ คมเดชบ้านหมอดู
มือถือ 096-6364945
รับปรึกษา ดวงชาตา ทางโทรศัพท์ ทาง E-MAIL : komdej.t@gmail.com
99/291 ซ.กำนันแม้น28 ถ.เอกชัย36 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. 10150